Porsche (ปอร์เช่) ฉลองครบรอบ 75 ปี ของทางแบรนด์ด้วยการเปิดตัว Porsche Mission X ต้นแบบไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่จะมาสานต่อความร้อนแรง และความสำเร็จของ 918 Spyder อีกทั้งยังตั้งเป้าเป็นว่าจะเป็นโรดคาร์ที่เร็วที่สุดในสนาม Nürburgring

โดย Porsche Mission X Concept ต้นแบบไฮเปอร์คาร์ขุมพลังไฟฟ้ารุ่นนี้ เป็นการนำความดีงามของ 959, Carrera GT, Porsche Taycan รถสปอร์ตไฟฟ้าของทางค่าย และ Porsche 918 Spyder ซูเปอร์คาร์ขุมพลังไฮบริด ที่รีดกำลังได้มากถึง 875 แรงม้า มาพร้อมอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.6 วินาที

ในด้านงานดีไซน์ได้รับการออกแบบใหม่ฉีกแนวไปจากรูปแบบเดิม ๆ โดดเด่นด้วยสีตัวถังที่เป็นสีบรอนด์ทอง Rocket Metallic ที่อกแบบมาพิเศษ ตัวรถออกแบบให้มีน้ำหนักตัวที่เบามากด้วยตัวถังคาร์บอน ให้อัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักเท่ากับ 1:1 และเคลมว่าสามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม.. ได้ในเวลาเพียง 2.0 วินาทีเท่านั้น

งานดีไซน์ด้านหน้ามากับบกรอบโคมไฟทรงสี่เหลี่ยมแนวตั้ง ไฟท้ายยังคงเป็นไฟ LED ทรงยาว ส่วนประตูข้างตัวรถเป็นประตูรถแบบ Le Mans-Style หรือแบบปีกนกกลับ หลังคาเป็นแบบกระจกแต่งคาร์บอนมา พร้อมล้อด้านหน้าขนาด 20 นิ้ว และด้านหลังขนาด 21 นิ้ว

ภายในห้องโดยสาร มากับเบาะที่นั่งแบบคู่ เบาะที่นั่ง carbon-shell โดยตัวเบาะที่นั่งจะมีสีที่แตกต่างกันระวห่งาเบาะผู้ขับและเบาะผู้โดยสาร โดยเบาะฝั่งผู้โดยสารจะใช้สี Andalusia Brown ส่วนฝั่งคนขับใช้สี Kalahari Grey เสริมวคามปลอดภัยด้วยเข็มขัดนิรภัยเป็นแบบ CFRP 6 จุด

แผงแดชบอร์ดได้รับการติดตั้ง พวงมาลัยแบบ Open-Top ซึ่งมีสวิตช์โหมดและแป้นเปลี่ยนเกียร์ มีกล้องให้หลายตัวและจะทำการบันทึก VDO ทันทีที่ผู้ขับกดปุ่มบันทึก (REC) บนตัวควบคุมอเนกประสงค์ นอกจากนั้นยังมีนาฬิกาจับเวลาเสริมที่มีทั้งจออะนาล็อก และจอดิจิตอล ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานทั้งในสนามแข่ง และการแข่งขันแรลลี่ และสามารถแสดงเวลารอบหรือข้อมูลสำคัญของผู้ขับขี่ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ได้อีกด้วย

ในด้านวิศวกรการออกแบบ ถูกดีไซน์ให้ตรงตามหลัดอากาศพลาสตร์ โดยตัวรถจะสร้างแรงกดอากาศที่มากถึง 860 กก. ในช่วงความเร็ว 285 กม./ชม. หรือมากกว่า 911 GT3 RS โฉมปัจจุบัน อีกทั้งยังได้ออกแบบอัตราส่วนน้ำหนักรถต่อแรงม้าด้วยอัตราส่วนเพียง 1 แรงม้า (PS) ต่อ 1 กก. แม้จะไม่มีการเผยตัวเลขสมรรถ แต่ข้อมูลจากสื่อบางแห่งในยุโรปเผยว่า Porsche Mission X อาจมีแรงม้ามากถึง 1500 แรงม้าซึ่งคาดว่าน้ำหนักรถอาจต่ำเพียง 1,521 กก. นอกจากนั้นตัวรถจะมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จไฟ 900-volt ซึ่งช่วยให้ชาร์จได้เร็วกว่า Porsche Taycan รุ่นปัจจุบันถึงสองเท่า

สำหรับ Porsche Mission X Concept รถต้นแบบคันนี้ ทาง Porsche วางแผนที่จะถูกพัฒนาต่อให้กลายเป็นรถโปรดักชั้นคาร์สำหรับวางจำหน่ายใจริงในอนาคต รวมทั้ง มีวัตถุประสงค์ที่จะนำพาไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าโฉมจำหน่ายจริง ไปคว้าสถิติทำความเร็วรอบสูงสุดใน Nürburgring Nordschleife ซึ่งหมายถึงการเอาชนะเวลา 6:35.183 จากรถ Mercedes-AMG One ที่บันทึกสถิติไว้เมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงจะเป็นได้ตามเป้าที่ทางปอร์เช่ตั้งไว้หรือไม่นั้นต้องติดตามกันต่อไป โดยเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงคาดว่าจะมาในอีก 4 ปีข้างหน้า

แหล่งที่มาและข้อมูล : Porsche