BYD บริษัทแม่ในเมืองจีนได้เผยโฉม BYD Destroyer 05 รถเก๋งซีดานขุมพลัง PHEV เสริมทัพเพิ่มไลท์อัพใหม่ในตระกูล Warship Series หลังจากที่บีวายดี ได้เคยเผยโฉมออกมาแล้วล่วงหน้าเมื่อช่วงเดือนมีนาคม
ในด้านงานออกแบบจะแตกต่างจาก BYD Destroyer 07 อยู่พอสมควร กระจังหน้าจะออกแบบให้เป็นเลเยอร์ (Layer) ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ พร้อมตกแต่งแต่ละชั้นด้วยเส้นโครเมียม ด้านข้างจะมาในแบบเมทริกซ์ทรงเหลี่ยม
ขณะที่ชุดไฟหน้าจะวางอยู่ด้านบนเป็นแบบ LED ที่มาพร้อมไฟ DRL ที่เป็นรูปตัว L วางอยู่ในโคมเดียวกัน เชื่อมต่อชุดไฟหน้าทั้ง 2 ฝั่งด้วยแถบไฟ พร้อมติดโลโก้โลโก้ BYD ใหม่ เสริมความหรูหราด้วยคิ้วโครเมียมที่วางพาดยาวอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า และที่ปลายขอบสปอยเลอร์หน้า
นอกจากนั้นยังเดินด้วยเส้นโครเมียมที่กรอบหน้าต่างบานข้าง ส่วนด้านท้ายออกแบบให้มีความลาดเทในแบบสไตล์ Fast-Back ส่วนไฟท้าย LED มาในแบบเรียวยาว ที่พาดเต็มพื้นที่ส่วนท้าย ปิดท้ายความสปอร์ตลงตัวด้วยล้ออัลลอยทูโทยขนาด 17 นิ้ว
สำหรับรายละเอียดภายในห้องโดยสารของ BYD Destroyer 05 ที่แผงคอนโซลหน้าจะได้รับการติดตั้งเพียงแผงหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้ว และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ที่สามารถปรับหมุนได้ รองรับระบบเชื่อมต่อเครือข่ายอัจฉริยะ DiLink ซึ่งรองรับฟังก์ชันต่างๆ เช่น การโต้ตอบด้วยเสียง คาราโอเกะ และการอัพเกรด OTA นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถปลดล็อกประตูผ่านนาฬิกา Apple หรือ iPhone ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ในส่วนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ยังถูกตกแต่งด้วยเส้นสายโครเมียม และเพิ่มกิมมิคเล็ก ๆ ด้วยการตกแต่งกรอบช่องแอร์ทั้ง 2 ฝั่งด้วยเส้นสีแดง
ขณะที่คอนโซลกลางออกแบบให้เป็นสะพานเชื่อมต่อกับคอนโซลหน้า โดยด้านล่างจะเป็นช่องสำหรับวางของ ส่วนพื้นที่ด้านบนจะมีพื้นที่ขนาดกว้าง โดยออกแบบให้มีช่องวางแก้วน้ำถึง 2 ช่อง, แท่นชาร์ตสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย, แป้นเปลี่ยนเกียร์ไฟฟ้า ที่เป็นแบบมือหมุน, ปุ่ม Push-Start, ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ
ส่วนเบาะที่นั่งมาในแบบทรงสปอร์ต เบาะฝั่งผู้ขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง ด้านเบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง โดยเบาะคู่หน้าจะมาพร้อมกับระบบอุ่นเบาะ
ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ BYD Destroyer 05 มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ DiPilot ที่ประกอบไปด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้, ระบบควบคุมการเข้าโค้ง, ระบบเตือนการออกนอกเลน, ระบบจดจำป้ายจราจรอัจฉริยะ, ระบบตรวจสอบจุดบอด BSD, เบรกมือไฟฟ้า, กล้อง 360 เป็นต้น
ด้านพละกำลัง BYD Destroyer 05 จะมีให้เลือก 2 รุ่น โดยทั้ง 2 รุ่นจะได้รับการติดตั้งระะบบ EHS ไฮบริด DM-i ของ BYD ที่ขับเคลื่อนด้วยขมุพลังเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 110 แรงม้า แรงบิต 135 นิวตันเมตร ซึ่งจะทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟ้าตัวเดียว และรุนมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวจะให้กำลังรวม 180 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.9 วินาทีขณะที่ในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุด 197 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.3 วินาที ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะมีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 4 โหมดด้วยกัน ได้แก่ EV, HEV/SPORT, ECO และ NORMAL มาพร้อมอัตราประหยัดน้ำมันที่ 26.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WLTC โดยทาง BYD เคลมไว้ว่าน้ำมันเต็ม 1 ถังจะวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 1, 200 กม.
ขณะที่ชุดแบตเตอรี่จะมีให้เลือก 2 ขนาดเช่นกัน โดยแบตเตอรี่ที่มีขนาดเล็กขะมีขนาด 8.3kWh วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วน ได้ระยะทาง 55 กม. ในขณะที่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่จะมีขนาดความจุที่ 18.3kWh ช่วยให้เดินทางได้ไกลถึง 120 กม. พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่จะให้กำลังไฟจ่าก 30 – 80% ภายในเวลา 30 นาที
สำหรับ BYD Destroyer 05 ซีดานขนาดเล็กขุมพลัง PHEV ที่จะวางจำหน่ายในตลาดเมืองจีนนี้จะมีให้เลือกถึง 5 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 101,800 – 148,800 หยวน หรือประมาณ 5 แสน – 7.3 แสนบาท