นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เดือนมีนาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 8,809 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 527.87 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 6,222 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 864.65 ประกอบด้วย รถยนต์นั่งจำนวน 6,205 คัน ,รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 14 คัน ,รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 2 คัน และรถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 1 คัน นอกจากนี้มีรถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 4 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน รวมทั้งรถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 31 เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 933.33 ประกอบด้วย รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 28 คัน , รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 3 คัน
รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 2,263 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 204.58 รถโดยสารมีทั้งสิ้น 250 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 1,983.33 และรถบรรทุกมีทั้งสิ้น 39 คัน ซึ่งเดือนมีนาคม 2565 ไม่มีการจดทะเบียน
ส่งผลให้ เดือนมกราคม – มีนาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 21,052 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 624.93 โดยแบ่งเป็น รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 14,625 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ร้อยละ 1,070.94 ประกอบด้วย รถยนต์นั่งจำนวน 14,537 คัน ,รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 84 คัน ,รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 2 คัน ,รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 2 คัน
รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 35 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ร้อยละ 1,650 ,รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 90 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ร้อยละ 143.24 ประกอบด้วย รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 84 คัน , รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 6 คัน
รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 5,648 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ร้อยละ 253.66 ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 5,647 คัน ,รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 1 คัน และรถโดยสารมีทั้งสิ้น 610 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ร้อยละ 3,110.53 รวมทั้งรถบรรทุกมีทั้งสิ้น 44 คัน ซึ่งเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ไม่มีการจดทะเบียน
ทั้งนี้หากเก็บข้อมูลยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ตั้งแต่เริ่มต้นถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 53,087 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 272.41 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 28,349 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 430.28 ประกอบด้วย รถยนต์นั่งมีจำนวน 28,070 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 436.81 ,รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 239 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 106.03 ,รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 11 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 1,000 ,รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 6 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน และรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 23 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 108 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 208.57 และรถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 586 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 95.33 ประกอบด้วย รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 67 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 91.43 ,รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 519 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 95.85
รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 22,152 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 166.35 ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 22,081 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 167.81 ,รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 71 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 1.39
รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 1,822 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 608.95 และรถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 30 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
แหล่งที่มาและข้อมูล : มติชน
ติดตามข่าวสารเทคโนโลยีและยานยนต์ได้ที่ FEE:D