เมื่อไม่นานมานี้บริษัทรถเช่า Hertz (เฮิรตซ์) ล้มละลาย และในช่วงระยะเวลาห่างกันไม่นานนัก เฮิรตซ์ได้จ้าง Tom Brady นักอเมริกันฟุตบอล ตำแหน่งควอร์เตอร์แบ็กในตำนานเพื่อโปรโมตว่าได้สั่งซื้อ Tesla EV จำนวน 100,000 คันเพื่อให้ลูกค้าทั่วโลกได้เช่าขับกัน และตอนนี้กำลังกลับมาทำกำไรอย่างมหาศาล
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla กล่าวว่า ” เฮิรตซ์ต้องสั่งซื้อรถเทสล่าเหมือนกับลูกค้ารายอื่น ๆ โดยไม่ได้รับส่วนลดยานพาหนะและต้องรอต่อคิว กล่าวได้ว่าบริษัทรถเช่ายังคงทยอยส่งมอบรายการเทสล่าจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็มีการเช่าในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกที่เฮิรตซ์ได้ให้บริการปล่อยเช่ารถยนต์ไฟฟ้าจาก Tesla ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นที่นิยมมาก แม้แต่คนที่ไม่มีความสนใจในการซื้อรถยนต์ EV ก็สามารถเช่าและลองใช้ Tesla ได้หากมีโอกาส “
นับตั้งแต่เพิ่มจำนวนของรถเช่าที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า เฮิรตซ์มีผลกำไรต่อปีเพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่หลายๆคนอาจคิดว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการที่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การปล่อยเช่าของเฮิรตซ์มีจำนวนที่พุ่งสูงขึ้น แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดซะทีเดียว สิ่งที่ทำให้เฮิรตซ์ประสบความสำเร็จ ในการปล่อยเช่ารถยนต์มากกว่าที่ผ่านมาและธุรกิจดีขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไม่ได้มาจากการเติบของรถไฟฟ้าแต่เป็นการวางแผนที่ทำธุรกิจให้มีการประหยัดของต้นทุนให้ได้มากที่สุดด้วยนั่นเอง
หลังจากไตรมาสที่สามของปี 2022 Stephen Scherr ซีอีโอของ Hertz ได้ประกาศข้อตกลง EV อีกครั้ง โดยครั้งนี้ร่วมกับ GM สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 175,000 คัน นอกจากนั้นบริษัททำรายได้มากถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สาม และยังไม่รวมถึงเหล่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่จะเข้ามาในอนาคต ที่จะเข้ามาเพิ่มความคึกคักให้กับตลาดรถเช่า โดย Scherr ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Cool Down ว่า
“เรามุ่งเน้นไปที่ความเป็นเลิศในการดำเนินงานและการเพิ่มประสิทธิภาพกองยานพาหนะเพื่อสร้างผลลัพธ์ทางการเงินที่อำนวยความสะดวกในแผนกลยุทธ์ของเรา ยกตัวอย่างเช่น การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในขณะที่เพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นของเราและในการให้บริการลูกค้าของเรา”
Stephen Scherr
เฮิรตซ์คำนวณว่ารถ EV มีค่าบำรุงรักษาถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันถึง 50-60% นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายังไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมบ่อยนัก ซึ่งหมายถึงเวลาในการซ่อมบำรุงที่ยาวนานขึ้น ล่าสุดเฮิรตซ์เพิ่งประกาศการเป็นหุ้นส่วนกับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเจ้าที่ 3 โดยกำลังซื้อ EV 65,000 คันจาก Polestar ทำให้เฮิรตซ์มีรถยนต์ไฟฟ้าจากหลากหลายแบรนด์อยู่ในฟลีตการเช่าไม่ว่าจะเป็นเทสล่า จีเอ็ม และโพลสตาร์ ซึ่งเฮิรตซ์ตั้งเป้าที่จะมีรถยนต์ไฟฟ้าเกือบ 350,000 คันในฟลีทรถเช่าทั้งหมด โดยหากได้เห็นการประหยัดต้นทุนและการเติบโตของรายได้แล้ว ก็น่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่กว่านี้เมื่อ EV ใหม่เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในอนาคตอันใกล้
แหล่งที่มาและข้อมูล : InsideEV
ติดตามข่าวสารยานยนต์และเทคโนโลยี