“หลังจากจบมัธยมฯ ปลายจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล เวลานั้นไม่รู้จะเรียนอะไรต่อ เพราะเกรดเฉลี่ยออกมาต่ำมากๆ จึงได้คำแนะนำจากผู้ปกครองว่าต้องไปสายอาชีพ ไม่เรียนตัดผม ก็ทำอาหาร เลยตัดสินใจเข้าเรียนต่อด้านอาหารที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต หลังจากจบแล้วก็ได้ทำงานต่ออยู่พักหนึ่ง” เจมส์ พชร เถกิงเกียรติ วัย 33 ปี เจ้าของร้าน “เจมส์ บูลองเจอรี” ร้านดัง บนถนน พรานนก – พุทธมณฑสาย4

 “ตอนทำงานตำแหน่งล่าสุด คือ เชฟ เลอ เปอร์ติ ต้องเข้าไปสอนนักเรียนในห้องปฏิบัติ แล้วมีคลาสที่ต้องสอนเบเกอรี่ ครัวซองต์ ทำให้ไม่มีความมั่นใจ เวลานักเรียนถามปัญหานี้เป็นเพราะอะไร แล้วตอบไม่ได้ เลยรู้สึกว่าไม่อยากโกหกนักเรียน ตอบในสิ่งที่ไม่รู้ เลยต้องเพียรศึกษาให้รู้จนถ่องแท้ให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้น ทั้งชีวิตก็จะกลัวไปเรื่อยๆ”

“เลยไปคุยกับเชฟใหญ่ ขอให้ฝึกฝนให้หน่อยได้ไหม เขาก็สอนให้เรื่อยๆ โยนสูตรมาก่อน ทำปุ๊บ ก็ พัง พัง พัง แล้วเขาก็สอนเทคนิคไป จนเริ่มทำออกมาดีขึ้น ดีขึ้น และจับจุดได้ว่า แก่นรากของตัวขนมปัง ครัวซองต์ คืออะไร” คุณเจมส์ ย้อนความทรงจำ

แต่กว่าจะเข้าใจถ่องแท้ ก็เสียหายไปหลายอย่าง ทั้งแรงกาย แรงใจ รวมถึงน้ำตาลูกผู้ชาย

“กว่าจะรู้อะไรเป็นอะไร ทำเสียเยอะมากเป็นพันชิ้น ท้อ ร้องไห้เลย คือ กระบวนการทำขนมปัง มันใช้เวลานาน บางทีเตรียมไว้ตอนบ่าย แล้วมารู้ผลพรุ่งนี้เช้า แต่ออกมาแย่ เหนื่อยมาก เสียเวลา เสียแรงกาย ทำออกมา พังอีกแล้ว พังอีกแล้ว เคยไม่อยากทำแล้วเหมือนกัน แต่บอกตัวเอง ต้องทำให้ได้ มาขนาดนี้แล้วที่เสียหายไปหลายพันชิ้น จะปล่อยให้เละเหรอ” คุณเจมส์ บอกจริงจัง

คุณเจมส์ ฮึดสู้ต่อ

กระทั่งเมื่อราวปี 2563 เขาตัดสินใจ เปิดกิจการของตัวเอง ใช้ชื่อว่า James Boulongerie (เจมส์ บูลองเจอรี) เป็นคาเฟ่มีสไตล์ อยู่บนถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 สำหรับสาเหตุที่เลือกทำเลย่านดังกล่าว เพราะเติบโตมาจากละแวกนั้น มองเห็นความเจริญของเมืองตามลำดับ มีหมู่บ้านขึ้นเยอะมาก เชื่อว่าผู้คนน่าจะมีกำลังซื้อ

“พอมีคนมาซื้อไปปุ๊บ เขาเห็นสะดุดตา โอ้โห ทำไมมันสวยขนาดนี้ พอชิมแล้วอร่อย ก็กลับมาซื้อกล่องใหญ่แล้วค่อยกลับบ้าน เอาไปฝากคนอื่น คราวนี้เกิดการบอกต่อปากต่อปาก จากนั้นคนที่ได้รับฝาก ก็ตามมาที่ร้าน แล้วบอกว่ามีคนซื้อมาฝาก เขาก็ซื้อไปให้คนอื่นต่ออีก จนลูกค้าเยอะขึ้น” คุณเจมส์ เล่าอย่างนั้น

ปัจจุบันเขาได้การยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการเบเกอรี่ ในฐานะเป็นเชฟหนุ่มเบอร์ต้นๆ ที่สร้างชื่อเสียงจากการทำ “ครัวซองต์” เกรดพรีเมี่ยม ออกมาวางจำหน่าย  เรียกได้ว่า ขายดีจนร้านแตก กับปรากฏการณ์ ครัวซองต์คิวยาวเหยียด ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ทั้งที่คาเฟ่ของเขา เปิดตอน 10 โมงเช้า ช่วงพีกสุดขายได้ถึงวันละกว่า 4,000 ชิ้น

 “ช่วงกระแสพีกๆ เคยขายครัวซองต์ ได้วันละกว่า 4,000 ชิ้น แต่การจัดการค่อนข้างพัง คือ ผลิตไม่ทัน จัดคิวไม่ได้ เพราะตอนนั้น ไม่ได้เตรียมตัวรับมืออะไรเลย พนักงานมีอยู่แค่ 7-8 คนเ รับมือไม่ไหว เละเลย” คุณเจมส์ เผย

ก่อนเล่าอีกว่า ช่วงเกิดปรากฏการณ์ฟีเวอร์ ลูกค้ามาเข้าคิวที่หน้าร้านตั้งแต่เช้ามืด พอเขามาถึงร้านประมาณ 7 โมง เห็นคิวหน้าถนนยาวมาก ยาวจนตกใจ ถึงกับอุทาน ใคร มาร้านไหน อ้าว ร้านเรานี่หว่า วันละ 4,000 กว่าชิ้น คือ ทำไปขายไป เป็นงานที่หนักมาก พนักงานเข้างาน 6 โมงเช้า กลับบ้าน 3-4 ทุ่ม

คิดว่าความสำเร็จครั้งนั้น เกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง คุณเจมส์ บอก คิดว่าลูกค้าอยากลอง ว่า โอ้โห ครัวซองต์ที่คนทั่วไปทานกันชิ้นหนึ่ง 20-30 บาท แต่นี่ 80-90 บาท มันจะดีขนาดไหนกัน และคิดว่าหน้าตามันสวย น่าทาน รูปลักษณ์ภายนอกดูดี เป็นตัวดึงดูดที่ดีมาก

ใช้เวลา 2 ปีกว่า ปัจจุบัน เจมส์ บูลองเจอรี มีแล้ว 2 สาขา ถือว่าเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างน่าชื่นชม

จุดพลิกผัน

“จุดเปลี่ยนของร้าน น่าจะมาจากการรีวิว ประกอบกับคนไม่เคยเห็นครัวซองต์ ที่หน้าตาเปลี่ยนไป เห็นแล้วอยากซื้อ ลูกค้าซื้อฝากต่อๆกัน ส่วนราคาขาย ยอมรับว่ามีคนบ่นเยอะว่าราคาสูง แต่ต้องบอกว่าเราใช้วัตถุดิบอย่างดีมาทำ ต้นทุนจึงต้องสูงเป็นธรรมดา”เชฟเจมส์ บอกอย่างนั้น

ส่วนหนึ่งของ เจมส์ บูลองเจอรี เติบโตนั้น แจ้งเกิดมาจากโลกโซเชียล ที่ผ่านมาเคยเจอดราม่า บ้างหรือไม่ ประเด็นนี้      เชฟเจมส์ บอกว่า

“ดราม่าก็โดนครับ ไม่เห็นอร่อยเลย แต่ต้องยึดมั่นในตัวเราว่าทำของดีที่สุดแล้ว ถ้าสิ่งที่คอมเมนต์เป็นเรื่องไม่จริงก็ปล่อยผ่าน แต่ถ้าจริงก็ตรวจสอบแล้วแก้ไข ที่ผ่านมาเคยอ่านคอมเมนต์ แล้วรู้สึกจมและเครียดมาก กระทั่งมีผู้ใหญ่แนะนำให้หยุดอ่าน”

หลักคิดในการทำงานสไตล์คนรุ่นใหม่

เมื่อถามถึงหลักคิดในการทำงานสไตล์คนรุ่นใหม่หัวใจไม่ยอมแพ้ เชฟเจมส์ บอกจริงจังว่า “ต้องดูว่าตัวเรามีต้นทุนขนาดไหน เพราะต้นทุนสำคัญสุด เอาเท่าที่เราไหว เริ่มจากเล็กๆ ก่อน หรือว่าทำเล็กๆ ให้ปังก็เป็นไปได้ แล้วต้องทำการบ้านหนักกว่าคนอื่น กว่าผมจะมีวันนี้ มันยากนะ คือไม่ใช่แบบเรามีตังค์แล้วลุยไปเลย ไม่ใช่ ต้อง Work Hard ด้วย ทำการบ้านหนักๆ ผมอาจไม่เก่งวิชาการ แต่ผมอาจเก่งเรียนรู้ เก่งช่างสังเกต” เชฟหนุ่ม บอก

เชฟเจมส์ บอกอีกว่า ถ้าคนรุ่นใหม่อยากเป็นผู้ประกอบการ แนะให้ถามตัวเองว่าชอบทำอะไร และอยู่กับอะไรได้นาน นอกจากนี้ต้องดูกำลังของตัวเองมีขนาดไหน อย่าทำอะไรเกินกำลัง อย่าไปก็อปปี้คนอื่น  เพราะการเป็นผู้นำ จะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่า

“ไม่ว่าอยากจะเป็นผู้ประกอบการอะไร ต้องทำให้ดีที่สุด ตั้งใจและอดทน ส่วนตัวผมอยากเป็นคนไทย ที่ไปเปิดร้านขนมที่กรุงปารีส แต่คงเป็นเรื่องของอนาคต”เชฟเจมส์ บอกส่งท้าย

.

เรียบเรียง  พารนี ปัทมานันท์ 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก