“ความนิยมของแฟนชาวญี่ปุ่นที่มีต่อไบร์ท-วิน ทำให้เกิดการเรียกกลุ่มนักแสดงของ GMMTV 4 คู่ เรียกว่า 4 คู่จตุรเทพ ประกอบด้วย ออฟ-กัน , เต-นิว , คริส-สิงโต และไบร์ท-วิน จนถึงปัจจุบัน 4 คู่นี้ยังถือเป็นนักแสดงที่ทรงอิทธิพล อยู่ในวัฒนธรรมวายไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมู่แฟนชาวญี่ปุ่น”
โปรเจกต์พิเศษ 10 ปี 10 ซีรีส์วายไทย เจาะลึกประเด็นสังคม วัฒนธรรมการเมือง พลวัตวายไทยและวายข้ามชาติผ่านมุมมองของ ศาสตราจารย์ ดร.นัทธนัย ประสานนาม ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาการขั้นสูงด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ประยุกต์ ภายใต้สถาบันวิทยาการขั้นสูงแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ EP 5 : เพราะเราคู่กัน 2gether The Series
นัทธนัย กล่าวว่า เพราะเราคู่กัน 2gether The Series เป็นผลงานเขียนของ JittiRain กำกับโดย แชมป์-วีรชิต ทองจิลา ผลิตโดย GMMTV เล่าถึงเรื่องราวในมหาวิทยาลับของสองหนุ่มระหว่างสารวัตร รับบทโดย ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี และไทน์ รับบทโดยวิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ที่มาคบกันเป็นแฟนปลอมๆ จากความสัมพันธ์หลอกๆ ก็กลายเป็นความรู้สึกที่แท้จริง และทำให้ทั้งสองคนนี้พัฒนาความสัมพันธ์จนถึงจุดที่ย้ายมาอยู่บ้านเดียวกัน
ปรากฏการณ์ความนิยมเพราะเราคู่กันในประเทศญี่ปุ่น
เพราะเราคู่กัน 2gether The Series ออกอากาศในปี 2563 ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด ในเวลานั้นเกิดการล็อกดาวน์ผู้ชมส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่บ้าน และซีรีส์ได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากทั้งแฟนชาวไทยและแฟนต่างชาติโดยเฉพาะแฟนชาวญี่ปุ่น จากเดิมที่รู้จักซีรีส์วายไทยอยู่แล้วจากเรื่อง sotus the series เมื่อซีรีส์เพราะเราคู่กันออกฉาย ทำให้คนญี่ปุ่นสนใจวายไทยในฐานะปรากฏการณ์ทางอุตสาหกรรม หรือวัฒนธรรมมากขึ้น
ปรากฏการณ์เพราะเราคู่กัน 2gether The Series สามารถวัดได้จากการปรากฏโฉมหน้าของไบร์ท-วินตามหน้าปกนิตยสาร เช่น นิตยสารสตรี anan (นิตยสารไลฟ์สไตล์สตรีของญี่ปุ่น) และนิตยสารบันเทิงต่างๆ นอกจากนี้ในแหล่งจำหน่ายงานสมัครเล่นของแฟนฟิก ที่โตเกียว ก็จะพบหน้าของไบร์ท-วิน แปะอยู่ที่ชั้นจำหน่ายหนังสือจนถึงตอนนี้ (ปี 2568) และเกิดกิจกรรมแฟนมีตของไบร์ท-วินหลายครั้งในประเทศญี่ปุ่น
“ความนิยมของแฟนชาวญี่ปุ่นที่มีต่อไบร์ท-วิน ทำให้เกิดการเรียกกลุ่มนักแสดงของ GMMTV 4 คู่ เรียกว่า 4 คู่จตุรเทพ ประกอบด้วย ออฟ-กัน , เต-นิว , คริส-สิงโต และไบร์ท-วิน จนถึงปัจจุบัน 4 คู่นี้ยังถือเป็นนักแสดงที่ทรงอิทธิพล อยู่ในวัฒนธรรมวายไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมู่แฟนชาวญี่ปุ่น”

ปรากฏการณ์อุตสาหกรรมวายกับการขยายตัวของวัฒนธรรมดิจิทัล
ปรากฏการณ์อุตสาหกรรมวายยังได้ขยายตัวควบคู่ไปกับการขยายตัวของวัฒนธรรมดิจิทัล ตั้งแต่ปลายทศวรรษ 2550 โดยพบว่าโทรทัศน์ดิจิทัลมีส่วนทำให้มีการสร้างคอนเทนต์จำนวนมาก และมีหลักฐานที่ชัดเจนในวัฒนธรรมวายตั้งแต่ในนวนิยายแล้ว เช่นกรณีนวนิยายต้นฉบับของ JittiRain หยิบยืมวิธีเล่าเรื่องสื่อโซเชียลมีเดียไปใช้ในหน้ากระดาษของนวนิยาย หลายครั้งเราจะพบว่าสารวัตรเป็นคนนิ้วเบียดพิมพ์ผิดบ่อย และข้อความที่พิพม์ผิดนั่นเองที่นำไปสู่ความกุ๊กกิ๊กในเรื่อง หรือในนวนิยายเล่มพิเศษที่ออกมาหลังจากที่ซีรีส์ออกอากาศ ก็ยังคงใช้วิธีการดังกล่าวอย่างเข้มข้นเช่นกัน
ขณะที่ GMMTV ก็ทดลองใช้ศักยภาพของสื่อดิจิทัล ในการสร้างตัวบทใหม่ๆ หรือสื่อใหม่ๆ เพื่อผนวกประสบการณ์ของแฟนเข้ากับซีรีส์และเนื้อหาที่อยู่แวดล้อม ยกตัวอย่างการจัดแฟนมีตแบบออนไลน์ หรือการไลฟ์รับประทานอาหารกลางวันของนักแสดงกับแฟนคลับ หรือคลิปรีแอ็กผลงานของตนเองของนักแสดงก็เริ่มขยายตัวมากขึ้นในช่วงเวลานั้นด้วยแสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมดิจิทัลมีบทบาทอย่างมากในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม เนื้อหาให้เกิดการขยายตัวมากขึ้น และเข้าถึงแฟนนานาชาติอย่างไม่มีพรมแดน
ประเด็นทางสังคมกับปรากฏการณ์พันธมิตรชานม ในซีรีส์เพราะเราคู่กัน
นัทธนัย กล่าวต่อเพราะเราคู่กัน 2gether The Series ยังเชื่อมโยงกับประเด็นทางสังคมในปรากฏการณ์พันธมิตรชานม หรือ Milk Tea Alliance ที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งของกลุ่มแฟนที่อยู่ในโลกที่พูดภาษาจีนแต่มีประเทศไทยเข้าไปร่วมด้วย ซึ่งความเคลื่อนไหวเริ่มต้นจากไบร์ท ในฐานะนักแสดงนำไปคอมเมนต์บางอย่างในอินเทอร์เน็ต ทำให้กลุ่มแฟนชาวจีนที่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงกลุ่มแฟนที่อยู่ในโลกที่พูดภาษาจีนเกิดความไม่พอใจ จึงมีการรวมตัวกันโดยอาศัยสื่อดิจิทัลเป็นแพลตฟอร์ม ทำให้เกิดแฮชแท็กจำนวนมหาศาลในช่วงเวลานั้น
ปรากฏการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวทางสังคมกับกลุ่มแฟนไม่ใช่สิ่งที่แยกขาดออกจากกัน เป็นไปตามที่นักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่าในกลุ่มแฟนที่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีประเด็นเกี่ยวกับชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ความชื่นชอบนักแสดงก็จะถูกผลักไว้ข้างหลังได้ ชาติต้องมาก่อน อันนี้เป็นประเด็นทางสังคมที่เราสามารถศึกษาได้จากวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับซีรีส์วาย
นอกจากนี้ในนวนิยายต้นฉบับของ JittiRain ยังมีผู้อ่านจำนวนมากรวมกลุ่มกันและต่อต้านเพราะมีเนื้อหาที่ว่าด้วยเพศสัมพันธ์ที่ปราศจากความยินยอม และมีการใช้ถ้อยคำบางอย่างที่ไม่อ่อนไหวและไม่ถูกต้องทางการเมือง (politically incorrect) ในตอนสุดท้ายที่ซีรีส์ออกฉาย JittiRain ในฐานะผู้เขียนนวนิยายต้นฉบับจึงออกแถลงการณ์ขอโทษ โดยปรับเปลี่ยนเนื้อหาในนนวนิยายเรื่องนี้และตีพิมพ์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
“กรณีของเพราะเราคู่กัน 2gether The Series แสดงให้เห็นว่ามีความพัวพันที่เหนียวแน่น ระหว่างซีรีส์วาย นวนิยายวาย และอุตสาหกรรมคอนเทนต์ว่าด้วยวาย กลุ่มแฟน ความเคลื่อนไหวทางสังคม ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทวีความเข้มข้นขึ้นหลังปี 2563 ประกอบกับการขยายตัวของวัฒนธรรมดิจิทัล ที่เป็นเครื่องมือสำคัญทำให้ฐานแฟนกว้างออก รวมทั้งทำให้คอนเทนต์วายไทยก้าวไกลสู่ระดับโลกได้”


