ช้าง ถือเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดใหญ่ ปัจจุบันได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 สปีชีส์ คือ ช้างแอฟริกา, ช้างป่าแอฟริกา และช้างเอเชีย ปัจจุบันสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ได้จัดให้ช้างแอฟริกาเป็นชนิดที่เกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์ และช้างเอเชียเป็นชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือที่เรียกทั่วไปว่าถูกขึ้นบัญชีแดง ซึ่งช้างเอเชียจะพบมากในบริเวณพื้นที่ India และ Southeast Asia โดยเฉพาะประเทศไทย ได้ถูกกำหนดว่าเข้าข่ายมีความเสี่ยงอย่างสูงที่จะสูญพันธ์จากการใช้แรงงานช้างในอุตสาหกรรมป่าไม้หรือในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังขยายตัวในปัจจุบัน
ล่าสุดมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าประเทศไทย (WFFT) ได้เผยภาพของช้างพัง วัย 71 ปีที่ชื่อว่า “ไพลิน” ซึ่งมีอาการ “กระดูกสันหลังบิดเบี้ยว” จากทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน กว่า 25 ปี โดยถูกใช้งานบรรทุกนักท่องเที่ยว ซึ่งบางครั้งอาจมากถึง 6 คนในครั้งเดียว
“ตอนนี้หลังของไพลินยังคงมีรอยแผลเป็นจากแผลกดทับเดิม การกดทับร่างกายของช้างอย่างต่อเนื่องนี้ อาจทำให้เนื้อเยื่อและกระดูกที่หลังของพวกมันเสื่อมสภาพ ทำให้กระดูกสันหลังของพวกมันเสียหายอย่างไม่อาจแก้ไขได้”
ข้อมูลจากมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าประเทศไทย (WFFT)
“ไพลินมาถึงสถานพักพิงของเราในปี 2549 หลังจากทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยมายาวนาน เพราะรู้สึกว่าเธอเชื่องช้าเกินไป มักเจ็บปวดตลอดเวลา และไม่สามารถทำงานได้ดีเหมือนเดิมอีกต่อไป จึงเป้นสาเหตุให้เธอถูกเจ้าของคนก่อนทอดทิ้งไปในที่สุด”
ข้อมูลจากมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าประเทศไทย (WFFT)
ด้าน ทอม เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการโครงการของมูลนิธิฯ เสริมว่า “แม้ว่าช้างจะขึ้นชื่อเรื่องพละกำลังและขนาดของมัน แต่กระดูกสันหลังหลังของพวกมันธรรมชาติไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับน้ำหนักนักท่องเที่ยวที่มากแบบนี้ จริงๆ แล้วกระดูกสันหลังของพวกมันควรที่จะยืดสูงขึ้น แต่การกดทับกระดูกสันหลังอย่างต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยวอาจส่งผลให้ร่างกายและกระดูกสันหลังเสียหายอย่างถาวร”
WFFT ยังระบุข้อมูลอีกว่าช้างที่ได้รับการช่วยเหลือซึ่งได้นำมาอยู่กับมูลนิธิฯ ส่วนใหญ่ประสบกับการถูกทารุณกรรมมานานหลายทศวรรษ แม้ว่าเราจะไม่มีวันเข้าใจความเจ็บปวดที่สัตว์เหล่านี้เคยประสบในอดีต แต่อย่างน้อยตอนนี้พวกมันก็สามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสงบสุขในศูนย์พักพิงของเรา เราหวังว่าภาพถ่ายเหล่านี้จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทำการค้นคว้าและสนับสนุนเขตรักษาพันธุ์ช้างที่มีจริยธรรมและยั่งยืนเท่านั้น ในขณะที่หลีกเลี่ยงสถานที่ให้บริการขี่ช้างหรือการกระทำที่แสวงหาผลประโยชน์อื่นๆ
ทั้งนี้ มูลนิธิฯ กำลังพยายามที่จะแชร์เรื่องราวของไพลิน เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความโหดร้ายของการใช้แรงงานช้าง และเตือนผู้คนว่าอย่าขี่ช้างเหล่านี้ ซึ่งหลังอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศเริ่มฟื้นตัวหลังจากวิกฤตการระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง
โดยมูลนิธิฯ ได้ระบุข้อมูลทิ้งท้ายอีกว่ายังมีช้างที่มีความผิดปกติทางด้านร่างกายจากการใช้แรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับการช่วยเหลือเหมือน “ไพลิน” อีก 22 เชือก ให้ได้ใช้ชีวิตแบบอิสระในพื้นที่เขตอนุรักษ์ที่มีขนาด 44 เอเคอร์ ใกล้กับอำเภอหัวหิน
อ้างอิงข้อมูลจาก: มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า (WFF)