อัลบั้ม “มาลีวัลย์และชรัส” (พ.ศ.2528) มีหลายสถานะ ในหน้าประวัติศาสตร์เพลงไทยยุคทศวรรษ 1980
ไม่ว่าจะเป็นอัลบั้มเพลงไทยสากลที่มีสีสันดนตรีโดดเด่นจัดจ้านมากที่สุดชุดหนึ่งในห้วงเวลานั้น
เป็นผลงานเปิดตัวของนักร้องหญิงชาวฟิลิปปินส์ที่เติบโตในเมืองไทยอย่าง “มาลีวัลย์ เจมีน่า”
เป็นผลงานที่ขับเน้นสถานภาพนักแต่งเพลงฝีมือดีและโปรดิวเซอร์หัวก้าวหน้าของ “ชรัส เฟื่องอารมย์” และ “พนเทพ สุวรรณะบุณย์”
ยิ่งกว่านั้น นี่ยังเป็นอัลบั้มเพลงไทยที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปอัดเสียงกันถึงประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมียอดนักดนตรีระดับโลกหลายรายเข้ามาร่วมบันทึกเสียงในสตูดิโอให้
ด้านหนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่สำเนียงดนตรีซึ่งปรากฏในอัลบั้มชุด “มาลีวัลย์และชรัส” จะฟังดูอินเตอร์มากๆ
อีกด้านหนึ่ง เมื่อพิจารณาเครดิต-ชื่อเสียงของนักดนตรีต่างชาติที่มาร่วมบันทึกเสียงให้ผลงานชุดนี้เป็นรายบุคคลแล้ว คนฟังเพลงรุ่นหลังอาจนึกแปลกใจและตั้งคำถามว่า บุคลากรระดับสุดยอดเหล่านั้นเข้ามาอัดเสียงให้ผลงานเพลงไทยชุดหนึ่งได้อย่างไร?
“พี่ตุ่น-พนเทพ สุวรรณะบุณย์” โปรดิวเซอร์และผู้เรียบเรียงดนตรีของอัลบั้ม “มาลีวัลย์และชรัส” เล่าเบื้องหลังเกี่ยวกับประเด็นนี้ เอาไว้สั้นๆ ในงาน “เล่นไป คุยไป” ที่ร้านอาหารอิมเมจิ้นเฮ้าส์ บ้านสวน จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2566 ว่า
สาเหตุที่อัลบั้มชุดดังกล่าวได้ไปบันทึกเสียงกันที่สหรัฐอเมริกา ก็เพราะคนรู้จักของมาลีวัลย์สามารถติดต่อห้องอัดเสียงทางโน้นได้ มิหนำซ้ำ ก่อนออกเดินทาง เมื่อผู้ประสานงานมาสอบถามเพิ่มเติมว่าอยากได้นักดนตรีคนไหนมาบันทึกเสียงให้บ้าง พี่ตุ่นก็ให้คำตอบกลับไปแบบทีเล่นทีจริงตามประสาคนชอบฟังและแกะเพลงฝรั่ง
แม้เขาจะรู้สึกเกร็งในช่วงแรก แต่เมื่อได้ร่วมงานกับนักดนตรียอดฝีมือหลายรายแล้ว บรรยากาศกลับดำเนินไปด้วยดี เพราะนักดนตรีระดับโลกที่สหรัฐนั้นมีความสุขกับการได้มาเล่นดนตรี รวมถึงการได้ลองมาทำงานที่มีลักษณะแปลกแตกต่างออกไป
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคม 2563 พี่ตุ่น พนเทพ เคยให้สัมภาษณ์กับทีมงาน FEED ว่าด้วยเส้นทางยาวนานหลายทศวรรษในวงการดนตรีของตนเอง โดยในช่วงหนึ่งของบทสนทนา โปรดิวเซอร์-นักแต่งเพลงรุ่นเก๋ารายนี้ ได้เล่าถึงรายละเอียดเบื้องหลังการทำงานชุด “มาลีวัลย์และชรัส” เอาไว้ว่า
“มิล่า (มาลีวัลย์) เขาอยากจะทำอัลบั้ม แล้วก็เพื่อนเขามีคอนเนกชันอยู่ที่อเมริกา ให้แต๋ม (ชรัส เฟื่องอารมย์) ช่วยแต่งเพลงให้ แต๋มก็มาหาพี่บอกว่า ไม่มีคนทำดนตรี พี่ก็รู้สึกว่า (ตัวเอง) มันแกะ (เพลงสากล) มาเยอะ มันอัดอั้น มันก็อยากจะปล่อยของ มีเพลงที่แต๋มแต่งมาปั๊บ ไอ้เราก็อยากที่จะแบบ ตรงเพลงนี้ถ้าเผื่อใส่ริธึมแบบนี้มันจะเท่มากเลยนะ
“คือเมื่อก่อนนี้ นึกออกไหมว่าเพลงไทยเวลาที่แต่งมาร้องมาธรรมดาเนี่ย ก็จะเป็นเพลงไทยปกติ ถ้าเราไม่ได้นึกก้าวข้ามไป แต่เวลาที่พี่ฟังเพลง พี่ไม่อยากให้มันเป็นเหมือน (เพลงไทย) ทั่วๆ ไป เพราะว่าเราเล่นเพลงสากลมาตลอด แล้วเราก็รู้สึกว่า จริงๆ แล้ว ไอ้ตรงนี้มันเอามาใส่เพลงไทยได้ (เลยอยาก) ลองดู ก็เลยรับปากกับแต๋มว่า โอเค ทำก็ได้ ก็เอามาทำ ทีละเพลง ทีละเพลง ทีละเพลง แล้วก็ไปอัดที่อเมริกา”
เมื่อถามว่าทำไมผลงานชุดนี้จึงมีนักดนตรีชื่อดังๆ มาบันทึกเสียงให้ พนเทพตอบว่า
“คืออย่างนี้ มันฟลุกมากเลยตรงที่เพื่อนมาลีวัลย์ที่เขาติดต่อที่อเมริกาเนี่ย ห้องอัดเสียงนี้ ตัวเจ้าของห้องอัดเสียงเป็นคนในวงการพอดี แต่เป็นคนรุ่นเก๋า แล้วก็รู้จักนักดนตรีเยอะ ตัวเองเกษียณแล้วแหละ แต่ว่าให้เช่าห้องอัดเสียง เวลาที่เราติดต่อไป เราก็บอกว่าเราไม่มีนักดนตรี (เจ้าของห้องอัดเสียง) บอกไม่เป็นไร ไอเป็นเพื่อนพวกนี้
“พวกนี้จริงๆ แล้วเขาเป็นนักดนตรีบันทึกเสียงระดับดังเลย แต่ว่าช่วงที่ว่างๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไร เขาเหมือนกับ (อยาก) ซ้อมมือ เขาก็ (บอก) จ้างถูกๆ ก็ได้ เหมือนกับมาเล่นสนุกๆ กับเพื่อน ซึ่งพี่ก็ไม่เคยรู้เลยนะว่าสังคมที่นั่นเขาเป็นแบบนี้ พอไปแล้วถึงได้รู้ว่า มันเป็นสังคมที่รู้สึกว่า เออ จิตใจมันดี
“นักดนตรีที่นั่น โอ้โห พอมาเจอที่ห้องอัดมันแฮปปี้ ซ้อมกันทีครึ่งค่อนวัน นั่งแจมกันอยู่นั่นแหละ สนุก เราถึงได้รู้ว่า คนที่รักดนตรีนี่มันรักจริงๆ มันขอให้ได้เล่นกับพรรคพวก แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว แล้วก็สื่อสารกัน
“แต่พอไปถึงแล้ว บรรยากาศมันเป็นอีกอย่างหนึ่งเลย คือโอเคเลย เขาก็ไม่ได้ซีเรียสเหมือนกับว่า โอ้โห ยูจะต้องมานั่งแบบ เป๊ะๆ อย่างนี้ (เขาก็) มานั่งคุยกัน ว่ายูต้องการแบบไหน เราต้องการแบบนี้นะ ริธึมแบบนี้ ตรงนี้ขอให้มันมีโซโล่แบบนี้นะ โอเค (เขา) ทำให้ดู อะไรอย่างนี้ ก็ไม่ยาก ง่ายๆ
“แล้วมือเบสที่มาอัดให้ตอนนั้น (เจสัน เชฟฟ์ – สมาชิกวงชิคาโกระหว่างปี 1985-2016) คือมือเบสวงชิคาโกตอนนี้ ที่ร้องแทนปีเตอร์ เซเทรา แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เข้าชิคาโก (เขา) นิสัยดี”
นี่คือเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับอัลบั้ม “มาลีวัลย์และชรัส” ที่พี่ตุ่นเปิดเผยให้เราทราบ
นอกจากคนดนตรีระดับพระกาฬที่พนเทพเอ่ยชื่อไปข้างต้น นักดนตรีฝีมือเยี่ยมรายอื่นๆ ที่มาบันทึกเสียงให้อัลบั้มชุดนี้ ยังประกอบไปด้วย
แอรอน ซิกแมน (คีย์บอร์ด) นักประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก เช่น หนังชุด Step Up
แบรด โคล (คีย์บอร์ดโซโล่) มือคีย์บอร์ดที่เคยร่วมงานกับศิลปินหลายคน อาทิ ไมเคิล โบลตัน, ฟิล คอลลินส์, บีบี คิง และนาตาลี โคล เป็นต้น
บัสซี หรือ บัสส์ ฟีเทน (กีตาร์) นักดนตรีที่มีผลงานของตนเองและร่วมบันทึกเสียงให้ศิลปินรายอื่นๆ มากมาย รวมทั้งเป็นเจ้าของระบบตั้งสายกีตาร์ชื่อดังอีกด้วย
เจฟฟ์ ฮัลล์ (กลอง) นักดนตรี-นักแต่งเพลงฝีมือดี หนึ่งในผลงานโด่งดังของเขา คือ การร่วมแต่งเพลง “Piano In The Dark” ขับร้องโดย “เบรนดา รัสเซลล์” ที่เข้าชิงรางวัลแกรมมี อวอร์ด สาขาเพลงแห่งปี เมื่อ ค.ศ.1988
อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
“เพียงแค่ใจเรารักกัน” เพลงรักอมตะที่เขียนเนื้อโดย “คนไม่เคยแต่งเพลงมาก่อน”!
“หลับตา” เพลงรักโรแมนติกยุค 80-90 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวสุดเศร้า
“พี่ชายที่แสนดี” แรงบันดาลใจจาก “บาร์บรา สไตรแซนด์” และเนื้อร้องที่เกือบถูกปัดตก!