จากการที่เคยเป็นเยาวชนที่มีความสนใจในปัญหาสิ่งแวดล้อม จนกลายมาเป็นผู้ก่อตั้ง Green Talent Generation โครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาเยาวชนให้มีทักษะในการคิดเชิงระบบสิ่งแวดล้อม (Environmental System Thinking) จิรัน เฟื่องนาค มุ่งหวังที่จะสร้างคนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ความเข้าใจในสิ่งแวดล้อม และสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างยั่งยืน “สิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวมาก เพราะมันกระทบทุกคนในทุกพื้นที่ และ คนรุ่นใหม่คือกำลังสำคัญ ที่สามารถพัฒนาความเข้าใจเชิงลึกในปัญหานี้ได้ ผมจึงเริ่มต้น Green Talent Generation เพื่อช่วยให้เยาวชนมีทักษะในการคิดเชิงระบบและเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม” จิรันกล่าว
จุดตั้งต้นของแนวคิด: เมื่อประสบการณ์ข้ามวัฒนธรรมเปิดประตูใหม่
ในปี 2025 จิรัน ได้รับโอกาสไปศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนที่ Korea University ซึ่งเปิดโอกาสให้เขาได้เห็นการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมในหลายประเทศ ท่ามกลางวัฒนธรรมและระบบสื่อสารที่แตกต่างกัน “สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจคือ การที่หลายประเทศมีเทคโนโลยีและแผนยุทธศาสตร์ที่ดี แต่การเปลี่ยนแปลงจริง ๆ ยังไม่เกิดขึ้น เพราะคนยังไม่รู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมกับ ‘คุณค่าของสิ่งแวดล้อม’ ในแบบที่เขาเข้าใจเอง” จิรันกล่าวถึงประสบการณ์ที่ทำให้เขาตระหนักถึงช่องว่างนี้

Environmental Soft Power คือแนวคิดที่เกิดขึ้นจากการสังเกตและการเรียนรู้ในครั้งนี้ ซึ่งจิรันมองว่าพลังอ่อนจาก วัฒนธรรม ความเชื่อ ภาษา สื่อ ศิลปะ และการมีความหมายร่วมในสังคม สามารถเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านสิ่งแวดล้อมได้โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรงหรือข้อบังคับที่เข้มงวด “ผมคิดว่าเราต้องทำให้คนรู้สึกว่าเขามีส่วนร่วมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมจริง ๆ และต้องทำให้เขาเห็นความสำคัญของมันในชีวิตประจำวัน” จิรันกล่าวถึงหลักการของ Environmental Soft Power
การริเริ่มแนวคิด Environmental Soft Power
“แนวคิดนี้มาจากการที่ผมเห็นว่า เทคโนโลยีและข้อมูลที่ดีไม่พอ หากเราไม่สามารถทำให้คนรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงก็จะไม่เกิดขึ้นจริง” จิรันกล่าวต่อ “ผมแบ่ง Environmental Soft Power ออกเป็นสองส่วน คือ The Power Within และ The Power in Practice”
“The Power Within คือพลังที่มาจากการตระหนักรู้ภายในตัวบุคคล การที่เรารู้สึกว่าเราเองมีส่วนร่วมกับการดูแลโลกใบนี้ และ The Power in Practice คือการนำความรู้มาปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน เช่น การลดการใช้พลาสติกหรือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน” จิรันอธิบาย

การใช้พลัง Soft Power ในศิลปะและสิ่งแวดล้อม
“บางครั้งกระเป๋าหนึ่งใบอาจทำให้หลาย ๆ คนได้ฉุกคิดเรื่องสิ่งแวดล้อมมากกว่าคำพูดพัน ๆ คำ” จิรันกล่าวถึงตัวอย่างที่พบในญี่ปุ่นว่า การใช้พลาสติกจากมหาสมุทรมาผลิตกระเป๋าเดินทางหรือผลิตสินค้าต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างการรับรู้ถึงปัญหาขยะพลาสติกและความสำคัญในการใช้วัสดุที่ยั่งยืน การใช้ Environmental Soft Power ในศิลปะก็เช่นเดียวกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ใน Echigo-Tsumari Art Triennale เทศกาลศิลปะกลางแจ้งในญี่ปุ่น ที่ใช้วัสดุธรรมชาติและขยะจากชุมชนมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ “ศิลปะสามารถเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกระตุ้นให้ผู้คนมีส่วนร่วมในการรักษาธรรมชาติ” จิรันกล่าว
Environmental Soft Power Summit 2025
ในปี 2025 จิรันจะจัดการประชุมครั้งสำคัญที่ชื่อว่า Environmental Soft Power Summit ซึ่งจะเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้พลังอ่อนในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม การประชุมนี้จะเป็นที่รวมตัวของผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ เพื่อมาร่วมพูดคุยกันเกี่ยวกับการสร้างการตระหนักรู้และการหาทางออกที่ยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม “การใช้พลังอ่อนเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมไม่ใช่แค่เรื่องของข้อมูลหรือการศึกษาเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับการสร้างการรับรู้ การร่วมมือ และการทำให้ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม” จิรันกล่าว “ผมเชื่อว่าการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต้องอาศัยทุกคนร่วมกันทำงาน”

การเข้าร่วม ASEF Young Leaders Summit 2025
จิรันยังได้รับเลือกเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทยเข้าร่วม ASEF Young Leaders Summit 2025 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการเรียนรู้จากผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมจากทั่วโลก ในงานนี้เขาจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและวิธีการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากมุมมองต่าง ๆ ที่จะนำมาปรับใช้ในการขับเคลื่อน Environmental Soft Power ในประเทศไทย
เชิญชวนทุกคนมาร่วมกันขับเคลื่อน
จิรันกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตอนนี้เรากำลังเปิดรับทุกคนที่มีความสนใจในแนวทางเดียวกัน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มหรือบุคคลจากภาคใดก็ตาม แนวคิดของเราคือการรวมพลังจากทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน เราเปิดรับทุกคนที่มุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อมและสร้างโลกที่ยั่งยืน”
“การรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนในสังคม เราทุกคนสามารถร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ผ่านการมีส่วนร่วมและการใช้พลังอ่อนในการสร้างความตระหนักรู้และการกระทำที่ส่งผลดีต่อโลก” จิรันกล่าวทิ้งท้าย