เป็นที่รู้กันว่าการออกกำลังกายช่วยเพิ่มความแข็งแรงและลดความเสี่ยงของการเป็นโรคร้ายต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคอ้วนลงพุง และโรคไตเรื้อรัง

ก่อนหน้านี้มีคำแนะนำหลายแห่งที่บอกว่า การเดิน, วิ่ง และปั่นจักรยาน เป็นกิจกรรมออกกำลังกายที่ช่วยลดความดันโลหิตได้ดี แต่ล่างานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงวารสารทางการแพทย์ British Journal of Sports Medicine ระบุว่า จากการเก็บข้อมูลผู้เข้าร่วมการทดสอบ 16,000 ตัวอย่าง พบว่ามีท่าออกกำลังกาย 2 อย่างที่ช่วยลดความดันโลหิตได้ดีที่สุดนั่นคือ ท่าแพลงก์ (Plank) และท่าวอลล์สควอต (Wall Squats)

วิธีแพลงก์

  • นอนราบลงกับพื้น
  • ตั้งศอกขนานกับพื้น
  • ยกสะโพกขึ้นให้ลำตัวขนานกับพื้น
  • ระวังอย่าให้หลังโก่งหรือหลังแอ่นเพื่อลดความเสี่ยงการบาดเจ็บ
  • หายใจเข้าออกตามปกติ
  • ทำค้างไว้ประมาณ 2 นาที หรือเท่าที่ทำไหว
วิธีการทำท่าแพลงก์ ออกกำลังกาย ลดความดันโลหิต
วิธีการทำท่าแพลงก์

วิธีทำวอลล์สควอต

  • ยืนหลังพิงกำแพง
  • ก้าวเท้าทั้งสองไปข้างหน้าห่างจากกำแพงประมาณ 60 เซนติเมตร
  • ค่อยๆ ย่อตัวลงจนตั้งฉากกับพื้น
  • หายใจเข้าออกตามปกติ
  • ทำค้างไว้ประมาณ 2 นาที หรือเท่าที่ทำไหว
วิธีการทำวอลล์สควอต ออกกำลังกาย ลดความดันโลหิต
วิธีการทำวอลล์สควอต

Jamie O’Driscoll จากมหาวิทยาลัย Canterbury Christ Church University บอกว่า ท่าออกกำลังกายทั้ง 2 นี้เป็นการออกกำลังกายแบบเกร็งกล้ามเนื้อค้างไว้ (isometric) ที่จะสร้างความเครียดให้กับร่างกายต่างจากการออกกำลังกายแบบเคลื่อนไหว (aerobic) ความเครียดของชั้นกล้ามเนื้อที่เกร็งค้างไว้ 2 นาที แล้วจึงผ่อนคลายนั้นจะช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ลืมที่จะหายใจตลอดเวลาที่ออกกำลังกาย โดยควรออกกำลังกายใน 2 ท่านี้เป็นเวลา 3 ครั้งต่อสัปดาห์

ความดันโลหิตสูงทำให้เกิดความเครียดต่อการทำงานของหัวใจ หลอดเลือด และอวัยวะอื่นๆ ซึ่งยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตัน ดังนั้นผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรเข้ารับการตรวจความดันโลหิตทุกๆ 5 ปี การรักษาส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การใช้ยาคู่กับการปรับพฤติกรรมของผู้ป่วย เช่น การทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ตามคำแนะนำด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักรระบุว่า ผู้ใหญ่ควรออกกำลังกายในระดับความเข้มข้นปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือออกกำลังกายในระดับความเข้มข้นหนัก 75 นาทีต่อสัปดาห์ ควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้มากถึง 35%

แหล่งที่มาข้อมูล

BBC : https://www.bbc.com/news/health-66303982

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก