องค์กรพลังงานระหว่างประเทศ หรือ International Energy Agency (IEA) กล่าวว่าพลังงานหมุนเวียนกำลังจะกลายเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในช่วงครึ่งทศวรรษที่จะถึงนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ภายหลังจากที่มีความผันผวนของแหล่งพลังงานและเรื่องราวความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยหลักใหญ่ใจความของวิกฤตทางด้านพลังงานมาจากการทำสงครามของรัสเซียและยูเครนที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ โดยรัสเซียเองเป็นประเทศที่ส่งออกปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติใหญที่สุดในยุโรป การที่รัสเซียหยุดส่งพลังงานให้ทางยุโรปทำให้หลายประเทศต้องตามหาแหล่งงานสำรองเพื่อใช้งาน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งเมื่อฤดูหนาวกำลังจะมาถึง
พลังงานหมุนเวียนได้รับการทำนายว่าจะเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าภายในต้นปี 2025 ขึ้นมาแทนที่สร้างพลังงานไฟฟ้าโดยการใช้พลังงานถ่านหิน IEA ยังคาดการณ์อีกว่าในปี 2027 พลังงานไฟฟ้ากว่า 40 % ทั่วโลกจะมาจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหิน,พลังงานนิวเคลียร์และก๊าซธรรมชาติ ลดน้อยลงไป IEA ยังได้เน้นอีกว่าภาวะความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในครั้งนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้พลังงานหมุนเวียนพัฒนาเป็นเท่าตัวในอีก 5 ปีที่จะถึง การไม่ส่งก๊าซธรรมชาติจากสงครามครั้งนี้สร้างแรงกระเพื่อมในการเปลี่ยนเป็นพลังงานหมุนเวียนประเภทพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์เป็นอย่างมาก
มุ่งสู่พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์อยู่ไม่ไกล
พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์จัดว่า เป็นกลุ่มที่สำคัญในหมวดพลังงานหมุนเวียนโดย IEA เชื่อว่าจะเป็นแหล่งสร้างพลังงานไฟฟ้าในอัตราส่วน 20 % ของพลังงานทั้งระบบในปี 2027 “Fatih Birol”กรรมการบริหารของ IEA กล่าวว่าภาวะวิกฤตพลังงานในครั้งนี้มีส่วนช่วยในการผลักดันให้พลังงานหมุนเวียนมาเร็วมากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังได้กล่าวต่อว่าการเร่งการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน มีส่วนสำคัญในการรักษาภาวะโลกร้อนไว้ที่ 1.5 องศาเซนติเกรด IEA เชื่อว่าการลงทุนในพลังงานสะอาดในอนาคตจะมีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2030 และจะเพิ่มมากกว่า 50 % เมื่อเทียบกับปัจจุบัน
ภาวะโลกร้อนที่ 1.5 องศาเซนติเกรด เป็นเป้าหมายที่ตั้งกันไว้ตามข้อตกลงปารีสที่มีขึ้นในปี 2015 โดยมีการตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะควบคุมโลกไม่ให้ร้อนขึ้นไปกว่า 2 องศาเซนติเกรด เมื่อเทียบกับอุณหภูมิก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อกว่า 200 ปีมาแล้ว และถ้าจะให้ดีเยี่ยมก็คือไม่เกิน 1.5 องศาเซนติเกรดนั้นเอง
